ทุ่งบัวตอง สถานที่ท่องเที่ยวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่น่าเที่ยว
ทุ่งบัวตอง ในประเทศไทยเท่าที่รู้ก็มีอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนแห่งหนึ่ง แต่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ซึ่งก็คือที่ ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เช่นกัน เวลาที่ดอกบัวตองบานเต็มที่นั้นอยู่ในช่วงไม่นานนักราว ๆ ประมาณเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคมของทุกปีเท่านั้น
ก่อนหรือหลังช่วงดังกล่าวอาจมีให้เห็นบ้างแต่ยังไม่บานเต็มที่ซึ่งจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1,000 ไร่ จะมีนักท่องเที่ยวแห่ไปดูกันมากโดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนซึ่งอยู่ในช่วงงานลอยกระทงยิ่งถ้าไปตรงกับวันลองกระทงด้วยก็ไม่ต้องบอกว่าจะมีนักท่องเที่ยวแยะแค่ไหน สำหรับที่พักไม่ต้องถามเลยเพราะถ้าไม่จองไว้ก่อนล่วงหน้า
ก็ไม่มีอย่างแน่นอน ทำให้ร้านอาหารแน่นขนัดจนไม่มีที่จะยืนทีเดียว ร้านอาหารที่นี่นับว่าอร่อยมากเสียด้วย ใครที่คิดว่าจะไปดูดอกบัวตองก็คงต้องเตรียมตัวกันให้ดี ๆ และต้องทำใจด้วยเพราะอาจต้องเจอกับคนแยะมาก ปีนั้นผมไปชมทุ่งบัวตองตรงกับวันลอยกระทงพอดี บอกตรง ๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจเลยเพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบเรื่องคนแยะ ๆ
นี่มันเหมือนไปแย่งกันอยู่ แย่งกันกินอย่างไรไม่รู้ แต่ก็เอาละจะอย่างไรเสียวันนี้ก็มากับเขาแล้วก็ถือว่าเลยตามเลยก็แล้วกัน ที่จริงเรื่องการลอยกระทงนั้นผมเองก็ไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่ แต่ที่ชอบมากกว่าก็คงเป็นการดูกระทงลอยครับ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มาลอยกระทงผมว่ามันน่าดูมากกว่าเสียอีก กลับมาที่การไปดูดอกบัวตองอย่างที่เอ่ยนำไว้ดีกว่า
ใช้เส้นทาง กรุงเทพ ฯ – เชียงใหม่ ผ่านอยูธยา สิงห์บุรี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง แล้วก็เชียงใหม่ ก็เย็นย่ำพลบค่ำพอดี พักที่เชียงใหม่ 1 คืน เช้าถึงออกจากเชียงใหม่ไปตามเส้นทางสาย 108 ผ่าน อ.หางดง แล้วเลี้ยวซ้ายไปเมืองโบราณ เวียงกุมกาม ผ่านไป อ.สันป่าตอง อ.จอมทอง ก่อนถึงทางแยกไปดอยอินทนนท์
ก็จะมีจุดตรวจแยกไป อ.แม่แจ่ม และไปถึงดอยแม่อุคอผ่าน อ.ฮอด อ.ดอยเต่า พอถึง อ.ฮอด จะเป็นทางขึ้นเขาตลอดหาทางราบแทบไม่พบ รวมทั้งทางโค้งไปโค้งมาต้องหาคนขับที่มีฝีมือสักหน่อย เพราะนับโค้งได้ประมาณ 1,864 โค้งทีเดียวก็ตื่นเต้นมากสำหรับผู้ที่เพิ่งเคยไปครั้งแรก เมื่อผ่านมาแล้วก็จะถึง ออบหลวง
ซึ่งยังอยู่ในเขตเชียงใหม่มีช่องเขาให้น้ำไหลผ่านได้นิดเดียว พอพ้นจากตรงนี้ไปก็จะถึงบ้านกองลอย ก็จะเห็นทางแยกไปโครงการหลวงแม่โถ และเข้าเขต อ.แม่ละเรียง จ.แม่ฮ่องสอนกันแล้ว จะเริ่มเห็นดอบบังตองได้ประปลายอยู่รวมกันเป็นหย่อม ๆ ไม่มากเท่าไหร่ มีบ้างที่เป็นแนวยาวไปตามสองข้างทาง อ.แม่สะเรียงเป็นอำเภอใหญ่
มีเส้นทางไปได้ถึง จ.ตาก ผ่าน อ.สบเมย อ.แม่สองยาง อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด และก็ถึง อ.เมืองตาก ก็ถ้าใครขับย้อนมาจาก จ.ตาก ก็จะมาถึง แม่ฮ่องสอนเพื่อชมทุ่งบัวตองได้อีกเส้นทางหนึ่ง ที่เที่ยวของ อ.แม่สะเรียงไม่ได้มีเฉพาะการชมทุ่งบัวตองเท่านั้น แต่ยังมี พระธาตุ 4 จอม ได้แก่ พระธาตุจอมแจ้ง พระตุจอมทอง พระธาตุจอมกิติ
และพระธาตุจอมมอญ ซึ่งอยู่บนเนินสูง เมื่อขึ้นไปนอกจากได้สักการะพระธาตุแล้วก็จะได้ชมวิวทัศน์ทั่ว อ.แม่สะเรียงอีกด้วย เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทั้งชาวพุทธ และชาวคริสต์ชื่นชอบเป็นอย่างมาก มีตำนานที่เกี่ยวกับพระธาตุทั้ง 4 องค์นี้เล่าต่อ ๆ กันมาว่าเมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์เคยเสด็จมายังอาณาจักรล้านนา และได้เสด็จมาถึงเมืองยวม
พระองค์มองไปที่ดอยลูกหนึ่งจึงตั้งชื่อดอยนั้นว่า “จอมมอง” แล้วเสียงเพี้ยนเป็น “จอมมอญ” ในเวลาต่อมาก พระองค์ได้สัมผัสดอยอีกลูกหนึ่งซึ่งอยู่ทางตะวันตก จึงให้ชื่อดอยนั้นว่า “ดอยจอมกิตติ” และเมื่อพระองค์เสด็จไปทางตะวันออก ดอยนั้นจึงได้ชื่อว่า “จอมทอง” และสุดท้ายพระองค์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นดอยอีกลูกหนึ่งจึงได้ชื่อว่า
“ดอยจอมแจ้ง” ซึ่งเป็นที่มาของพระธาตุทั้ง 4 ตั้งแต่นั้นมา เมื่อผ่าน อ.แม่สะเรียงไปอีกประมาณ 30 ก.ม. ก็จะถึง อ.แม่ลาน้อย ซึ่งเป็นอำเภอไม่ใหญ่นัก มีสถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ถ้ำซึ่งพบใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2536 นี่เอง เป็นถ้ำที่มีความอัศจรรย์แห่งหนี่งในประเทศไทย ได้แก่ ถ้ำแก้โกมล ซึ่งพบโดยวิศวกรท่านหนึ่งที่กำลังสำรวจแร่ฟลูออไรต์อยู่
แต่ไม่พบ กลับไปพบผลึกแคลไซต์บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นโพลงใหญ่อยู่บริเวณนั้นแทน ซึ่งผลึกที่พบนี้มีความงดงามมีแสงสว่างราวกันเพชร ทอง และพลอยระยิบระยับไปทั่วบริเวณ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงทอดพระเนตร และได้พระราชทานนามว่า “ถ้ำแก้วโกมล” พร้อมทั้งพระราชทานชื่อของห้องในถ้ำทั้ง 5 ห้องว่า
ห้องพระทัยธาร วิมานเมฆ เฉพหิมพานต์ ม่านผาแก้ว และเพริดแพร้วมณีบุปผา เส้นทางเพื่อไปชมถ้ำทั้ง 5 ห้องอยู่ไม่ไกลประมาณ 5 ก.ม. อ.ขุนยวม ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เราจะไปกันวันนี้ หากแวะตามรายทางคงวันเดียวไม่พอเพราะมีแยะมาก หรือกว่าจะไปถึงทุ่งบัวตองก็คงต้องใช้ไฟส่องดู อย่ากระนั้นเลยเราตรงไปกันเลยดีกว่าจะได้ถึงวัน ๆ หน่อย
สำหรับที่ อ.ขุนยวมเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวอีกมาก เช่น วัดต่อแพ วัดม่วยต่อ ศูนย์วัฒนธรรท้องถิ่ม ถนนที่เราวิ่งมานี้จะผ่านเข้ากลางชุมชนขุนยวม ผ่านสถานี้ตำรวจ โรงแรมมิตรขุนยวม มีร้านอาหารอร่อยที่จะต้องกลับมาชิม หลังจากเที่ยวชมทุ่งบัวตองแล้ว เมื่อได้ชมทุ่งบัวตองจนอิ่มอกอิ่มใจแล้วก็ได้เวลาท้องร้องพอดี
ได้กลับมาที่ร้ายอร่อยอย่างที่บอกไว้ ซึ่งอยู่ติดถนนมีป้ายบอกไว้ว่าคลีนฟู๊ด กุ๊ดเทสท์ แขวนไว้หน้าร้านเป็นการเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่งไทยและเทศ ร้านนี้อาหารอร่อยและราคาไม่แพง และยังจำหน่ายของพื้นเมืองอีกด้วย อาหารที่สั่งมาก็มีหลายอย่าง เช่น อาหารพื้นเมืองอย่างลาบเหนือ ที่ปรุงมายังร้อน ๆ กินกับข้าวเหนียวอร่อยอย่า
บอกใครเชียวมีระเผ็ดนิด ๆ คนไม่กินเผ็ดอย่างผมก็กินได้สบาย ขอบอกก่อนว่าร้านนี้เขากระซิบไว้ก่อนสั่งว่า ให้ชิมก่อนปรุง ซึ่งก็เป็นการอวดฝีมือกลาย ๆ นั่นเอง กับจานต่อไปเห็นจะต้องลองปลาสาละวินกันหน่อย ทอดกระเทียม ปลาตัวโต ๆ มีมันมากสักหน่อย แต่กลิ่นนี่ซิหอมน่ากินมาก หอมตั้งแต่ยกมาจากในครัวทีเดียว
น้ำพริกหนุ่ม ใส้อั่ว หมูทุบ แกงอ่อมปลา อิ่มแล้วคิดเงิน 1,000 บาทถ้วน ๆ นับว่าไม่แพง วันนี้ได้ทั้งอาหารอร่อยถูกปากมาก และได้ชมไม้ดอกอย่างทุ่งบัวตองที่สวยงามนักว่าไม่ขาดทุน เพราะปีหนึ่งได้ชมเพียงไม่กี่วัน บ่ายมากแล้วก็ได้เวลากลับพอดี….