โรงเรียนวัดปากช่อง (จันทรานุมาศวิทยาคาร)

หมู่ที่ 2 บ้านปากช่อง ตำบล ปากช่อง อำเภอ จอมบึง จังหวัด ราชบุรี 70150

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 740734

ตำนานพญานาค ผู้ที่ถูกสาปจากเรื่องเล่าของจังหวัดบึงกาฬ

ตำนานพญานาค ผู้ที่ถูกสาปจากเรื่องเล่าของจังหวัดบึงกาฬ

ตำนานพญานาค ในครั้งอดีตกาลอันยาวนานยังมีเมืองอยู่เมื่องหนึ่งชื่อว่าเมืองรัตพานคร กษัตริย์ผู้ครองรัตพานครแห่งนี้มีนามว่าพระอือลือราชาเมืองแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากไพร่ฟ้าหน้าใสอยู่กันอย่างมีความสุขเพราะมีเจ้าที่ครองนครเป็นผู้ที่มีจิตใจดีมี เมตาธรรมและรักไพร่ฟ้าประชาชนของพระองค์เป็นอย่างมากการปกครองเมือง

ของพระองค์นั้นทรงฟังเสียงจากประชาชนเป็นหลัก พระอือลือราชาอภิเษกสมรสกับพระนางแก้วกัญญาต่อมาทั้ง 2 ก็มีธิดาชื่อว่านางเขียวคำเมื่อพระนางเขียวคำเติบโตขึ้นเป็นสาวเต็มตัวแล้วก็ได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา พระเจ้าสามพันตาและพระนางเขียวคำมีทายาทสืบพระราชบัลลังก์ที่มีนามว่าเจ้าชายฟ้ารุ่งเหตุที่ทั้งสอง

ตั้งชื่อโอรสว่าฟ้ารุ่งนั้นก็เป็นเพราะในวงศ์ยามที่เจ้าชายประสูติท้องฟ้านั้นก็เกิดแสงจ้าสว่างสดใสสวยงามจึงได้ตั้งชื่อให้พระราชโอรสว่าเจ้าชายฟ้ารุ่งเจ้าชายฟ้ารุ่งนั้นเป็นผู้ที่มีปัญญาฉลาดเฉลียวเมื่อเติบโตเป็นหนุ่มก็มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาหาใครเทียบเทียมมิได้ต่อมาพระองค์ได้พบและรักกับนางนาครินทานี ซึ่งนางไม่ใช่มนุษย์

ธรรมดาแต่นางเป็นถึงพระธิดาของพญานาคราชผู้ครองเมืองบาดาลอันยิ่งใหญ่ความรักของทั้ง 2 นั้นไม่ได้ถูกกีดกันแต่อย่างใดทั้งพระอือลือผู้เป็นอัยกาหรือปู่และพระอัยยิกาอีกทั้งพระบิดากับพระมารดาของเจ้าชายฟ้ารุ่งก็เห็นชอบกับความรักในครั้งนี้รวมถึงพญานาคราชผู้เป็นถึงพระบิดาของนางนาครินทานีเองก็ทรงเห็นชอบด้วยต่อ

มาไม่นานก็ได้มีการจัดงานอภิเษกระหว่างเจ้าชายฟ้ารุ่งและพระนางนาครินทานีขึ้นโดยที่นางนั้นได้แปลงกายมาในรูปแบบมนุษย์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ก็ไม่ปานงานอภิเษกนั้นถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่รวม 7 วัน 7 คืนมีมหรสพมีการละเล่นละครมีระบำรำฟ้อนเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ตระการตาและประชาชนทั่วรัตพานคร

ต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าชายพวกเขาความรักของเจ้าชายฟ้ารุ่งและพระนางนาครินทานีน่าจะไปได้ด้วยดีทว่าความแตกต่างระหว่างธาตุของมนุษย์และนาคทำให้หลังจากอภิเษกกันมาแล้วถึง 3 ปีแต่ทั้ง 2 ก็ยังไม่มีราชธิดาหรือพระโอรสมาบังเกิดแต่อย่างใดยังให้เกิดความเสียใจและความผิดหวังแกทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะนาง

นาครินทานที่อยากจะมีทายาทแต่ไม่มารถมีได้สุดท้ายด้วยความเศร้าหมองทางใจก็ส่งผลมาถึงทางกายคือนางได้ล้มป่วยลงในที่สุดและเมื่อนางล้มป่วยลงก็ทำให้มนตราและอำนาจที่เคยมีได้เสื่อมคลายลงไปสุดท้ายจากร่างแปลงนางมนุษย์ที่แสนสวยงามก็คืนสู่สภาพนางนาคีดังเดิมเมื่อประชาชนได้รู้ข่าวว่าพระนางนาครินทานีกลายร่าง

กลับไปเป็นนางนาคีแล้วต่างก็พากันซุบซิบนินทาหนักเข้าก็ล่ำลือกันไปว่านางอาจจะนำอาจจะนำพาความเดือดร้อนมาสู่รัตพานครประชาชนต่างพากันแห่แหนมาเข้าเฝ้าพระอือลือราชาเพื่อร้องเรียนที่นาครินทานีกลายร่างมาเป็นนางนาคว่านางนั้นน่ากลัวและคนกับนาคจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไรรังแต่จะทำให้เกิดเหตุอาเพศกับ เมืองรัตพานคร

เท่านั้นประชาชนจึงขอให้พระอือลือราชาขับไล่นางนาคีออกไปให้พ้นเสียจากเมืองพระอือลือราชานั้นก็ทรงลำบากพระทัยเพราะทรงทราบดีว่าพระนัดดาหรือหลานของพระองค์เองซึ่งก็คือเจ้าชายฟ้ารุ่งแล้วรักนางนาครินทานีเป็นอย่างมาก หากพระองค์จะขับไล่นางออกไปเสียจากเมืองเพื่อทำให้ประชาชนชาวเมืองรัตพานครสบายใจก็เกรงว่า

ตำนานพญานาค

จะกลายเป็นการทำร้ายจิตใจของหลานชายตนเองพระอือลือราชาทรงคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดีนับวันประชาชนยิ่งจะพากันร่ำลือและเรียกร้องให้นางนาครินทานีออกไปให้พ้นจากรัตพานครเสียโดยไวและได้พบว่าพระนางนาครินมานีกลายร่างเป็นนางนาคีอย่างที่ทุกคนร่ำลือกันก็บังเกิดความหวาดกลัวในรูปลักษณ์ของนางสุดท้าย

พระอือลือราชาจึงต้องตัดสินพระทัยขับไล่นางออกไปเสียให้พ้นจากเมืองแม้ว่านางจะพยายามร่ายมนตร์เพื่อกลับมาเป็นหญิงสาวชาวมนุษย์ดังเดิมแล้วก็ตามแต่พระอือลือราชาก็ไม่ได้ทรงเปลี่ยนพระทัย พระอือลือราชาทรงสั่งให้ทหารไปแจ้งข่าวแก่พญานาคราชพระบิดาของนางนาครินทานีให้มารับตัวนางกลับคืนเมืองบาดาลเสียแต่โดยไว

ส่วนพญานาคราชผู้ครองเมืองบาดาลเองก็ไม่อยากเห็นลูกสาวต้องทุกข์ใจเพราะคำด่าสาปแช่งของชาวเมืองและการขับไล่ไสส่งของพระอือลือราชาพระองค์จึงเสร็จมารับพระราชธิดาด้วยตัวพระองค์เองเมื่อพญานาคราชราชาแห่งเมืองบาดาลเดินทางมาถึงเมืองรัตพานครแล้วก็ได้เข้าพบกับพระอือลือราชาแล้วได้เอ่ยทวงถามถึงเครื่องกับ

อุตพันธ์ที่ได้มอบให้มาเมื่อครั้งที่พระราชธิดาอภิเษกกับเจ้าชายฟ้ารุ่ง “หากเราจะนำตัวลูกสาวกลับเมืองบาดาล พวกท่านก็จงคืนเครื่องกับอุตพันธ์ของตระกูลเรากลับคืนมาด้วย” เห็นจะไม่ได้หรอกท่านพระอือลือราชาปฏิเสธและไม่คืนเครื่องกับอุตพันธ์ นี้ท่านจะโกงเรารึพญานาคราชทรงกริ้ว เราได้นำเครื่องกับอุตพันธ์ ไปแปรเปลี่ยนอย่างอื่นเสียแล้ว

สิ่งที่ท่านจะได้กลับสู้เมืองบาดาลก็เห็นจะมีเพียงแต่พระราชธิดาของท่านเท่านั้น “ได้ในเมื่อท่านยืนยันเช่นนี้ ท่านก็จงรอรับผลการกระทำของท่านเถิด เมื่องที่เคยสวยงามและยิ่งใหญ่ของท่านจะถล่มล่มจม กลายเป็นเมืองบาดาลในชั่วข้ามคืน ประชาชนที่เจ้ารักยิ่งก็จะไม่เหลือรอด เมื่อพ้นคืนนี้ไปจะมีแค่ 3 แห่งเท่านั้น ที่จะรอดพ้นจากการล่มเมื่องของข้า”

พญานาคแห่งเมืองบาดาลทรงตัดด้วยความโกรธกริ้วอย่างที่สุด จากนั้นพระองค์ก็ได้ทรงพาตัวพระราชธิดา นางาครินทานีกลับสู่เมืองบาดาล ในกลางดึกคืนนั้นเองพญานาคราชได้นำพาไพร่พลนาคจากเมืองบาดาลเป็นจำนวนมหาศาลมาถล่มเมืองรัตพานครอย่างราบคาบมวลน้ำอย่างมหาศาลได้ไหลหลากเข้าท้วม รัตพานครจนกลายเป็นบึงน้ำใหญ่

และมองไม่เห็นสิ่งใดอีกนอกเวิ้งน้ำกว้างไกลสุดสายตาส่วน 3 สถานที่ที่พญานาคราชตัดว่าจะทรงยกเว้นให้นั้นก็คือวัด 3 แห่ง ได้แก่ วัดดอนแก้ว วัดดอนฟ้า และวัดดอนสวรรค์ส่วนบริเวณที่เคยเป็นเมืองรัตพานครแล้วได้กลายเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่แล้วนั้นก็กลายเป็นบึงหลงของซึ่งในเวลาต่อมามีการเรียกต่อๆ กันจนเพี้ยนเสียงกลายเป็นบึง

โขลงโหลงฝ่ายนางนาครินทานีเมื่อใดทราบว่าพระบิดาของนางได้พาไพร่พลนาคขึ้นมาถล่มรัตพานครจนกลายเป็นบึงน้ำใหญ่ด้วยความที่ยังรักและอาลัยในตัวสวามีหรือเจ้าชายฟ้ารุ่ง นางจึงขึ้นจากเมืองบาดาลมาเที่ยวเสาะหาเจ้าชายฟ้ารุ่งจนเส้นทางที่นางนาคีเลื้อยลัดเลาะตามหาสวามีนั้นก็ได้กลายเป็นทางน้ำที่เรียกกันว่าห้วยน้ำเมาซึง

เปรียบเสมือนกับการที่นางยังมัวเมาในความรักที่มีต่อเจ้าชายฟ้ารุ่งนั้นเอง หลังจากที่พญานาคราชได้พาไพร่พลนาคจากเมืองบาดาลมาถล่มเมืองรัตพานครจนย่อยยับอับปาง กลายเป็นบึงขนาดใหญ่ และผู้คนต่างล้มตายจนไม่หลงเหลืออยู่เลย ทว่าพระอือลือราชากลับยังมีชีวิตอยู่และได้ถูกพญานาคราชนำตัวไปขลังไว้เป็นเชลยเสียที่เมือง

บาดาลความโกรธแค้นที่พญานาคราชทรงมีต่อพระอือลือราชาชั่งมากนักและนอกจากพระอือลือราชาจะทำให้พระราชธิดาต้องเสียพระทัยอย่างหนักแล้วพระอือลือราชายังมีใจคิดคตไม่ยอมคืนเครื่องกับอุตพันธ์ให้กับพระองค์อีกด้วยดังนั้นพญานาคราชจึงได้สาปแช่งพระอือลือราชา “ข้าขอสาปแช่งเจ้าอือลือราชา ขอให้เจ้าจงกลายเป็น

พญานาคเฝ้าอยู่ที่บึงหลงของแห่งนี้ซึ่งเคยเป็นเมืองที่เจ้ารักนักหนา ขอให้เจ้าอยู่เฝ้าที่นี่ไปจนตราบชั่วนิรันดร์จนกว่าจะเกิดเมืองใหม่ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เมื่อนั้นเจ้าจะพ้นจากคำสาปแช่งของข้า” สิ้นคำสาปของพญานาคราชพระอือลือราชาก็ได้กลายเป็นพญานาคเฝ้าอยู่บึงหลงของนับตั้งแต่นั้นมาและบึงหลงของนี้ที่ต่อมาได้เรียกกันว่าบึง

โขลงโหลง ไม่มีใครรู้ว่าพระอือลือราชาจะพ้นจากคำสาปแช่งของพญานาคแล้วหรือยังเพราะปัจจุบันก็ได้เกิดเป็นเมืองใหม่ขึ้นแล้วซึ่งเมืองแห่งนี้พึ่งจะแยกตัวออกมาจากจังหวัดหนองคลายกลายเป็นจังหวัดแห่งใหม่ที่มีชื่อว่าเป็นจังหวัดบึงกาฬนั้นเอง